10 ทริคเขียนบทความ SEO ให้ติดอันดับ Google

การเขียนบทความ SEO เป็นหนึ่งในเครื่องมือในการทำการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด จนตอนนี้แทบจะทุกธุรกิจได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการทำ SEO กันมากขึ้น แต่จุดประสงค์หลักในการเขียนบทความ SEO นั้น คือการทำให้บทความและเว็บไซต์ของคุณติดอยู่ในหน้าแรกของ Google หรือเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ ที่เรียกรวม ๆ กันว่า Search Engine ดังนั้นรูปแบบและโครงสร้างต่าง ๆ ในการเขียนบทความจึงมีความเฉพาะตัว และควรทำอย่างถูกต้อง  บทความนี้เราจะมาแนะนำทริคการเขียนบทความ SEO ที่จะช่วยให้บทความของคุณมีประสิทธิภาพและติดหน้าแรกในที่สุด

1. ศึกษาหาข้อมูล

คือการศึกษาหาข้อมูลว่าอยากจะเขียนเกี่ยวกับอะไร โดยจะต้องไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนด้วยว่าสิ่งที่ต้องการจะเขียนนี้ มีความสำคัญหรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจ สินค้าและบริการของเราอย่างไร เช่นถ้าหากคุณมีธุรกิจเกี่ยวกับต้นไม้  คุณก็ควรจะเลือกเขียนหัวข้อที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งจะไม่ใช่การเขียนขายของกันแบบตรง ๆ แต่อาจจะเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ ที่สามารถเชื่อมโยงกับสินค้าได้ในทางอ้อม อย่างเช่น “วิธีดูแลต้นไม้ฟอกอากาศ” เป็นต้น โดยการเลือกหัวข้อคุณอาจจะหาสิ่งที่กำลังเป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ในขณะนั้นแล้วนำมาต่อยอด

2. วิเคราะห์ Keyword

การเขียนหัวข้อเรื่องให้น่าสนใจ คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ผู้อ่านคลิกเข้ามาที่หน้าเว็บ ซึ่งบางครั้งการเขียนหัวข้อปัง ๆ และดูโดดเด่น สามารถเพิ่มโอกาสให้คนคลิกเข้ามาอ่านบทความได้ก็จริง แต่สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ หัวข้อของบทความนั้น ๆ จะต้องมี Keyword ที่ตรงกับ Search Volume สำหรับ SEO ด้วย

3. ตั้งหัวข้อสำหรับ เขียนบทความ

หัวข้อของบทความเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะอยู่ในตำแหน่ง H1 หรือ Heading 1 ซึ่ง Google จะให้ความสำคัญมาก ดังนั้นเราควรให้น่าสนใจเพื่อให้ผู้ใช้คลิกเข้ามาอ่าน และต้องมี Keyword หลักของบทความ

แน่นอนว่าเราไม่สามารถยัด Keyword ทุกคำไปได้ ดังนั้น เลือกเฉพาะคำหลักเท่านั้น ยกตัวอย่างในกรณีของร้านขายต้นไม้ ก็อาจใส่หัวข้อเป็น “5 เทคนิคการดูแลต้นไม้ฟอกอากาศ ที่คนรักต้นไม้ตัวจริงต้องรู้” ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในหัวข้อนี้จะโฟกัสคำว่า “การดูแลต้นไม้” เป็นหลัก และยังมีการผสมผสานอีก 2 คำจาก Keyword Ideas ด้านบน “เทคนิคการดูแลต้นไม้” และ “การดูแลต้นไม้ฝอกอากาศ” ด้วยเช่นกัน โดยไม่กระทบกับ Keyword หลัก และไม่ทำให้หัวข้ออ่านไม่รู้เรื่อง

4. วางโครงสร้างของบทความ

การวางโครงสร้างบทความจะช่วยให้เราจับประเด็นที่จะเขียน และเรียงลำดับความสำคัญของเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น บทความนี้พูดถึงเรื่องอะไรบ้าง เอาเนื้อหาไหนขึ้นก่อน โดยตั้งชื่อของหัวข้อหลัก และหัวข้อรองให้ชัดเจน การวางโครงสร้างบทความให้ชัดเจนยังช่วยให้ผู้ที่เข้ามาอ่านบทความ สามารถอ่านได้ง่ายยิ่งขึ้น

สิ่งที่ต้องมีในโครงสร้างของบทความ SEO

  • Meta Title  ชื่อหัวข้อของบทความที่จะไปปรากฏอยู่บนหน้าการค้นหา โดยควรมีความกระชับ ได้ใจความ โดยความยาวที่นิยมใช้กันจะอยู่ที่ 65 ตัวอักษร และที่สำคัญคือคุณต้องอย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดสัก 1 คีย์เวิร์ดลงไปด้วย
  • Meta Description รองจาก Meta Title โดยในส่วนนี้จะเป็นการสรุปเนื้อหาของบทความให้สั้น กระชับและมีคีย์เวิร์ดสำคัญอยู่ในนั้นด้วย เราแนะนำว่าให้คุณใช้ไม่เกิน 160 ตัวอักษร โดยความสำคัญของการเขียน Meta Description อยู่ที่เวลาที่ผู้ใช้งานเสิร์ชหาข้อมูล มักจะอ่านเนื้อหาในส่วนนี้ก่อนเสมอ
  • Headline (H1) หัวข้อที่จะปรากฏอยู่บนหัวบทความในหน้าเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งโดยรวมแล้วจะมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกับ Meta Title แต่เราขอแนะนำว่า ให้เขียนเนื้อหาที่มีความแตกต่างกัน แต่ยังคงใจความสำคัญที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันก็จะดีที่สุด
  • Sub-Headings (H2-H6) สำหรับการเขียน Sub-Headings หรือที่เราเรียกกันว่า H2 นั้นอาจจะมีได้ถึง H6 หรือมากกว่านั้นก็ได้ ซึ่งจะเป็นหัวข้อรองในบทความ โดยจำแนกได้จากการลำดับภายใต้หัวข้อนั้น ๆ
  • Paragraphs โดยในการเขียนเนื้อหานั้น คุณจะต้องแยกแต่ละย่อหน้าให้ชัดเจน โดยในหนึ่งย่อหน้าไม่ควรมีความยาวเกินไป หรือมีหลายใจความสำคัญ ที่สำคัญคุณจะต้องกระจายใส่คีย์เวิร์ดลงไปในส่วนของเนื้อหาด้วย
  • Alt Text จำเป็นต้องใส่ Alt Text หรือข้อความที่ซ่อนอยู่ในรูปนั้น ๆ ด้วย เพราะเวลาที่มีผู้ใช้งานเสิร์ชหาในหน้ารูปภาพ รูปของคุณก็จะได้ไปแสดงผลด้วยเช่นกัน โดย Alt Text อาจจะเป็นคีย์เวิร์ดหรือข้อความสั้น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในภาพและบทความ
  • Internal Link คือการใส่ลิงก์เชื่อมไปหาบทความหรือหน้าเว็บไซต์ของคุณ แต่ในการใส่ Internal Link คุณไม่จำเป็นต้องแปะลิงก์ลงไปโต้ง ๆ แต่สามารถซ่อนลิงก์ไว้ในข้อความได้

6. การแชร์คอนเทนต์ไปยังช่องทาง Social Media ต่างๆ

นอกจากการปรับโครงสร้างเนื้อหาบทความให้ตอบโจทย์ SEO แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ Social Signal ที่ Google จะนำมาดูด้วย ว่าบทความนั้นๆ ถูกแชร์ หรือมี Engagement บน Social Media อย่างไร

7. เขียนบทความด้วยมุมมองที่ไม่ซ้ำใคร

การเขียนบทความที่อยู่ในเทรนด์และมีสาระ แน่นอนว่าใคร  ๆ ก็ชอบและอยากเปิดอ่าน แต่การเขียนหัวข้อและเนื้อหาที่แตกต่างจากบทความที่เคยมี หรือมุมมองที่คนอื่นไม่เขียน คือจุดขายของบทความนั้น ๆ ที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกสนใจ

8. สร้างปฏิสัมพันธ์ให้แก่ผู้อ่านด้วยการเขียน Blog อัปเดต

การเขียนบทความที่มอบคุณค่าให้แก่ผู้อ่าน หรือเป็นบทความที่เป็นเทรนด์มาแรงของการทำธุรกิจออนไลน์ โดยมีการอัปเดตบทความเป็นประจำทุกสัปดาห์ สามารถพัฒนาให้ความเป็นผู้เชี่ยวชาญของผู้เขียนนั้นดีขึ้น

9. การทำ Off-page Optimization ควบคู่ไปด้วย

การทำ Backlink ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นในบาง Keyword ที่มีการแข่งขันสูง ในธุรกิจที่คู่แข่งทำLink Building หรือได้รับลิงก์จากเว็บไซต์อื่นจำนวนมาก ซึ่งการทำ Link Building จำเป็นต้องศึกษาให้ดีเสียก่อน เพราะหากทำลิงก์ที่ไม่มีคุณภาพ Google จะมองว่าเว็บไซต์นั้นไม่มีคุณภาพ และการทำ บทความ SEO ที่ผ่านมาอาจกลายเป็นศูนย์ได้ทันที

10.วัดผลและปรับปรุงแก้ไข

จำเป็นจะต้องหาจุดอ่อนของบทความและนำมาแก้ไขปรับปรุงอีกครั้ง เพื่อให้มีโอกาสติดหน้าแรกมากขึ้น หรือถ้าบทความของเราติดหน้าแรกเป็นที่เรียบร้อย ก็ยังจำเป็นต้องคอยเช็กอยู่เป็นระยะ เพราะโลกใบนี้มีบทความใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการคอยตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอยังจะช่วยให้หาทางปรับปรุงเนื้อหา ให้อยู่ในอันดับที่ดีกว่าเดิมได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ทั้งนี้ลองอ่านบทความที่ทาง  “คาร์ทบิช” (Cart-Biz) เคยเขียนก่อนหน้านี้เกี่ยวกับ การทำ SEO หรือการเขียนบทความ SEO หากต้องการให้เอเจนซี่โฆษณาของเราช่วยในเรื่องของบริการหรือการขอคำปรึกษาเกี่ยวกับ SEO อย่างเต็มรูปแบบ ถูกต้องตามนโยบายของ Google ก็ติดต่อเราได้เลย ทางเรามีบริการรับทำ SEO ด้วยเช่นกัน