เริ่มก่อนได้เปรียบ เทคนิคทำ SEO ที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน

ปัจจุบันธุรกิจที่มีเว็บไซต์ หรือกำลังเริ่มสร้างเว็บไซต์คงหนีไม่พ้นในเรื่องการทำ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อให้เว็บไซต์ของแบรนด์เราอยู่เป็นอันดับต้นๆ เมื่อคนค้นหาด้วย Keyword ชื่อแบรนด์ สินค้า หรือบริการ ซึ่งเป็นเรื่องสำหรับมากๆ สำหรับธุรกิจ เพราะนอกจากจะทำให้ลูกค้าค้นหาเว็บไซต์เจอแล้ว ยังมีผลทำให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถืออีกด้วย

การทำ SEO คือ อะไร ?

การทำ SEO คือ การผลักดันเว็บไซต์ตัวเองให้ติดหน้าแรกเวลาค้นหาบน google ด้วยคีย์เวิร์ดที่ต้องการ โดยไม่ใช้การลงโฆษณา และต้องทำด้วยกระบวนการต่างๆ ในรูปแบบที่ Google ต้องการด้วย ซึ่งคำนี้ย่อมาจากคำภาษาอังกฤษว่า Search engine optimization นั่นเอง

ทำไมถึงต้องอยากขึ้นหน้าแรก GOOGLE หรืออันดับแรก

ไม่ใช่เพียงแค่หน้าแรกเท่านั้น แต่การได้ตำแหน่งแรกมาครอบครองคือสิ่งที่ธุรกิจต่างๆ แข่งกันอย่างดุเดือดเพื่อให้เว็บไซต์ของตัวเองได้ไปอยู่ตรงจุดนั้น ความหมายคือยิ่งหน้าเว็บของคุณอยู่อันดับแรกจะทำให้ลุกค้าค้นหาเว็บไซต์เราเจอและยังมีผลทำให้เว็บไซต์ของเรามีความน่าเชื่อถืออีกด้วย หากอันดับ 10 ลงไป โอกาสที่คนจะเข้าไปพบเว็บไซต์ของคุณจากการค้นหานั้นแทบไม่เหลือ แน่นอนว่าหน้า 1 และอันดับที่ 1 ได้รับการเข้าถึงสูงที่สุดอย่างปฏิเสธไม่ได้

พร้อมที่จะเริ่มทำ SEO แล้ว ต้องทำอย่างไรบ้าง

โดยใหญ่มากบริษัทต่างๆ ก็จะจ้างเอเจนซี่การตลาดดูแลเรื่อง SEO ให้เป็นปกติ แต่ประเด็นที่เราอยากให้เจ้าของกิจการทำความเข้าใจกับขั้นตอนต่างๆ นั้น เพื่อที่จะได้ช่วยให้คุณทำงานกับเหล่าเอเจนซี่ที่คุณว่าจ้างได้ง่ายยิ่งขึ้น เราจึงได้นำเทคนิคการทำ SEO แบบง่ายๆ สำหรับมือใหม่มาให้ทุกคนลองไปเริ่มทำเอง

1.ทำแผนการตลาดสำหรับทำ SEO ทั้งหมด

การทำแผนการตลาดล่วงหน้าจะช่วยให้คุณคุมงบประมาณได้ โดยขั้นตอนนี้คุณอาจจะต้องทำไปพร้อมๆ กับทีมเอเจนซี่ที่คุณว่าจ้าง เพื่อให้พวกเขาเสนอแนวทางและการใช้งบในส่วนต่างๆ ว่าจะลงเงินในส่วนของการทำ SEO เท่าไร ส่วนของค่าบริการเท่าไร ระยะเวลากี่เดือน แล้วต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เสริมหรือไม่ ซึ่งเรื่องเหล่านี้หากคุณไม่วางแผนล่วงหน้าอาจทำให้งบบานปลายได้และควรคุยกับคนที่คุณว่าจ้างให้ชัดเจนถึงสิ่งที่คุณจะได้ เช่น จะมีรายงานผลการทำ SEO ทุกๆ เดือนหรือไม่ เปลี่ยน Keyword ได้กี่ครั้ง ใครจะเป็นคนกำหนด Keyword เป็นต้น

2. ค้นหา Keyword ที่ต้องการให้เว็บไซต์คุณติดอันดับหรือนำมาทำ SEO

หากคุณเป็นธุรกิจใหม่ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ทั้งนั้น สามารถเริ่มทำได้ด้วยการค้นหา Keyword เป็นอันดับแรก ซึ่งหากอยากลองค้นหาด้วยตัวเองก็จะมีเครื่องมือช่วยค้นหาต่างๆ ดังนี้ หากต้องการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพอาจจะต้องจ่ายค่าบริการในบางแพลตฟอร์ม หลักๆ แล้ว Keyword ที่ Optimise ควรมี Search Volume หรือมีปริมาณการเสิร์จทุกๆเดือน และมีความสัมพันธ์กับธุรกิจของคุณ

2. ค้นหา Keyword ที่ต้องการให้เว็บไซต์คุณติดอันดับหรือนำมาทำ SEO

หากคุณเป็นธุรกิจใหม่ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ทั้งนั้น สามารถเริ่มทำได้ด้วยการค้นหา Keyword เป็นอันดับแรก ซึ่งหากอยากลองค้นหาด้วยตัวเองก็จะมีเครื่องมือช่วยค้นหาต่างๆ ดังนี้ หากต้องการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพอาจจะต้องจ่ายค่าบริการในบางแพลตฟอร์ม หลักๆ แล้ว Keyword ที่ Optimise ควรมี Search Volume หรือมีปริมาณการเสิร์จทุกๆเดือน และมีความสัมพันธ์กับธุรกิจของคุณ

3. ปรับแต่งเว็บไซต์

หากคุณยังไม่มีเว็บไซต์มาก่อน ก็ถือว่าได้เปรียบเพราะสามารถสร้างเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับสิ่งที่ Google กำหนดไว้สำหรับการทำ SEO ได้ตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ต้องมาแก้กันให้วุ่นวาย แต่ถ้ามีเว็บไซต์เก่าอยู่แล้วและไม่ได้อัปเดตเลยเป็นเวลาหลายปี ถึงเวลาที่คุณจะต้องปรับเว็บไซต์ให้สนับสนุนการทำ SEO แล้ว

สำหรับเว็บไซต์ที่จะได้คะแนนจาก Google จะต้องเป็นหน้าเว็บที่มีคอนเทนต์ที่แฝงไปด้วย Keyword ในตำแหน่งต่างๆ กระจายอยู่ทั่วทุกหน้าของเว็บไซต์ ตรงนี้ล่ะที่คุณจะได้นำ Keyword ที่หาในหัวข้อก่อนหน้ามาใช้ เพราะเว็บไซต์ที่ SEO ขึ้นเร็วๆ มีลักษณะที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ มีตัวหนังสือเยอะ หรือที่เรียกว่า “Onsite” ตรงส่วนนี้อาจทำเพียงครั้งเดียวเลยก็ได้ถ้าไม่มีการเปลี่ยน Keyword และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ Link ที่ต้องใส่ทั้งภายในเว็บไซต์ตัวเอง (ลิงก์กันไปมาระหว่างหน้าต่างๆ) กับ Link ที่แปะไว้นอกเว็บไซต์แล้วชี้เป้ากลับเข้ามายังเว็บไซต์ของตน (Backlink)

4. ส่งคอนเทนต์ไปสู่เว็บไซต์ข้างนอก

วิธีการนี้เราจะเรียกว่า Outreach โดยส่วนประกอบของคอนเทนต์ประเภทนี้นอกจากจะแฝงคำ Keyword ไปในคอนเทนต์แล้วยังจะมีการแทรกลิงก์เพื่อทำเป็น Backlink ให้คนอ่านคอนเทนต์คลิกเข้ามาบนหน้าเว็บไซต์ของเรา

5. ตรวจสอบพร้อมปรับปรุงแก้ไข

การทำ SEO นั้นไม่ใช่ทำเสร็จแล้วปล่อยไปเลย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งที่คุณจะต้องเข้ามาดูการจัดลำดับของ Keyword ที่คุณได้ทำการกำหนดเข้าไป รวมถึง Rank ของหน้าเว็บไซต์ว่าตอนนี้ Keyword คำไหนบ้างที่ติดหน้าแรก แล้วค่อยมาโฟกัสที่คำอื่นๆ ที่ยังไต่ลำดับขึ้นไปเรื่อยๆ หาก Keyword ของคุณกว้างเกินไป การทำ SEO อาจจะเห็นผลช้าหรือไม่เห็นผลเลยก็ได้ ดังนั้นในบางกรณีคุณอาจจะต้องมีการปรับ เปลี่ยน Keyword บางคำใหม่ (แต่เปลี่ยนบ่อยๆ ก็ไม่ส่งผลดี เพราะการเปลี่ยนใหม่ก็เท่ากับคุณเริ่มใหม่)

6. ให้ Social Media เป็นตัวช่วย SEO ของคุณ

คนอาจยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว Social Media ก็มีส่วนช่วยให้การทำ SEO ของคุณได้ด้วยเช่นกัน โดย Social Media จะช่วย SEO ในแง่ของการที่คอนเทนต์ถูกแชร์ออกไป อาจจะเป็น Outreach หรือ Blog ก็ได้ เพราะในคอนเทนต์เหล่านั้นเราใส่ Keyword พร้อมกับทำ Backlink ไว้อยู่แล้ว เมื่อมีการแชร์เยอะ คนอ่านมาก คะแนนของ Keyword นั้นๆ ก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นไปตามลำดับ

บทความนี้เราได้อธิบายอย่างละเอียดว่า SEO คืออะไร ทำไมต้องทำ SEO ให้อยู่อันดับสูงๆ และประโยชน์ของการทำการตลาดดิจิทัลแบบนี้คืออะไร ดังนั้นหากคุณรู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า SEO คืออะไร และลองปรับใช้ดู ถึงตอนนั้นคุณจะไม่กล้ามองข้าม SEO อีกต่อไป